ReadyPlanet.com
dot dot
dot
เมนูหลัก(主要栏目)
dot
bulletตารางเวลาเรียน
bulletวิธีการสมัครเรียน
bulletอัตราค่าเล่าเรียน(学费)
bulletภาพบรรยากาศในโรงเรียน
bulletช่องทางการติดต่อ
bulletFacebook fan page
bulletการสอบวัดระดับภาษาจีน HSK และ HSKK
dot
"เรามารู้จักตัวอักษรจีนกันเถอะ " 我们一起来认识中文字吧"
dot
bulletมหัศจรรย์ของตัวอักษรจีน
bulletการเรียนรู้ตัวอักษรภาษาจีน
bulletลักษณะของตัวอักษรจีน
dot
ต้นกำเนิดเลขอารบิคมาจากไหน?阿拉伯数字的来源
dot
bullet"ตัวเลขจีนกับตัวเลขอารบิค"
dot
เกร็ดวัฒนธรรม 文化类别
dot
bulletสัญญาณมือเลข 1-10
bulletถังจวง (เสื้อคอจีน)
bulletการขอร้องและขอบคุณ
bulletประวัติซื่อเหอหยวน
bulletธรรมเนียมการมอบของขวัญ
bulletลายครามของจีน
dot
---------(请求及多谢)--------
dot
bulletชื่อแซ่ของคนจีน
dot
การปฎิรูปตัวพาหะและการปฎิวัติของตัวอักษรจีน "汉字的沿革"
dot
bulletการปฎิวัติของตัวอักษรจีน
bulletตัวอักษรจีนและภาษาถิ่น
bulletอธิบายตัวอักษรจีน
dot
สังคมและวัฒนธรรม 社会与文化
dot
bulletรวบรวมศัพท์การแพทย์
dot
-------(医务用词总汇)-------
dot
bulletประเภทงาน
dot
----------(劳务用语)-----------
dot
bulletรถยนต์ 汽车用语
bulletรถยนต์ทั่วโลก 汽车品牌
dot
-------(国际中餐菜谱)-------
dot
bulletคำศัพท์ประเภทเนื้อ
dot
---------(肉类词汇)----------
dot
bulletเมนูอาหารจีนพื้นเมือง 普通中餐菜谱
bulletเมนูอาหารจีนนานาชาติ
bulletเมนูอาหารแม๊คโดนัลด์ 麦当劳餐谱
bulletอาหารว่าง 点心
bulletชุดอุปกรณ์ในการทำอาหาร 烹调用具
bulletประเภทร้านค้าต่างๆ 分类商店
bulletคำสิริมงคล 贺词
bulletชื่อมหาวิทยาลัยต่างๆของไทย 泰国大学名称
bulletชาและกาแฟ 茶与咖啡
bulletการ์ดประเภทต่างๆ 各类卡片
bulletศาสนาต่างๆ 各种宗教
dot
------ธุรกิจ(商务)-------
dot
bulletเสนอราคาและการต่อรองราคา 报价与还价
bulletส่วนลดและค่านายหน้า 折扣与佣金
bulletการส่งมอบสินค้า 交货
bulletวิธีการชำระเงิน 付款方式
dot
บุคคลที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์จีน 中国史上著名人物
dot
bulletประวัติขงจื้อ 孔子
bulletประวัติเติ้งเสี่ยวผิง 邓小平
bulletประวัติ จิ๋นซีฮ่องเต้ 秦始皇
bulletประวัติ จางเหิง 张衡
bulletประวัติ ฮั่นเกาจู่ 汉高祖(刘邦)
bulletประวัติหัวโถ 华佗
bulletประวัติ ซุนอู่ 孙武
dot
ประวัติศาสตร์จีน 中国历史
dot
bulletลูกมังกร-ตระกูลหลี่ (李)
bulletลูกมังกร-ตระกูลหวัง(王)
bulletลูกหลาน-ตระกูลเฉิน (陈)
bulletลูกมังกร-ตระกูลหวง(黄)


China Radio International


ประวัติ จิ๋นซีฮ่องเต้ 秦始皇

จิ๋นซีฮ่องเต้หรือฉินสื่อหวง  (秦始皇)

---ผู้ริเริ่มระบบการปกครองแบบรวม อำนาจไว้ส่วนกลาง---

 

จักรพรรดิ์ฉินซีฮ่องเต้ทรงมีพระนามว่า “ อิ๋งเจิ้ง” เริ่มแรกเป็นกษัตริย์แห่งรัฐฉิน  หนึ่งใน7รัฐในปลายสมัยจ้านกว๋อ  ได้แก่ ฉิน  หาน เว่ย ฉู่ จ้าว เอี้ยนและฉี รัฐฉินมีกำลังเข้มแข็งมากกว่ารัฐอื่นๆอีก6รัฐ จึงมีความพร้อมที่จะกลืน รัฐอื่นๆได้ ตั้งแต่ปี236จนถึงปี221ก่อน คริสต์ศักราชรัฐฉิน ค่อยๆผนวกเอาดินแดนทั้ง6รัฐรวมเข้าเป็นอาณาจักรเดียวกันและสถาปนาราชวงศ์ฉินขึ้น เป็นราชวงศ์แรกที่มีความเป็นเอกภาพ มีหลายชนชาติและใช้ระบบการปกครองแบบรวมศูนย์อำนาจไว้ที่ อำนาจส่วนกลาง จากนั้น อิ๋งเจิ้งก็ได้สถาปนาตัวเองเป็นฮ่องเต้ หรือจักรพรรดิองค์ปฐมของราชวงศ์ฉินในปี221ก่อนคริสต์ศักราช.

   เพื่อขจัดความกระด้างกระเดื่องของเชื้อพระวงศ์ 6 รัฐเดิม หลี่ซือ อัครมหาเสนาบดีเสนอแนะให้รวบอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง ฉินซีฮ่องเต้ ทรงเห็นชอบด้วย  กล่าวโดยสรุปแล้วก็คือสลายระบบเจ้าผู้ครองนครรัฐ การใช้อำนาจรวมศูนย์อยู่ที่องค์จักรพรรดิหรือฮ่องเต้ แต่ผู้เดียว แบ่งเขตการปกครองราชอาณาจักรออกเป็น36เขตหรือ”จุ้น” (ต่อมาเพิ่มเป็น42เขต) แต่ละเขตมีผู้ว่าการทั้งฝ่ายพลเรือนและทหาร และตำแหน่งผู้ตรวจการอีกตำแหน่งหนึ่ง แต่ละเขตหรือ”จุ้น”ยังแบ่ง เขตปกครองออกเป็นอำเภอหรือ”เสี้ยน”รองลงมาเป็น”ตำบล”และ   ”หมู่บ้าน”เป็นต้น

นอกจากนั้น ยังได้ร่างและประกาศใช้กฏหมายให้เป็นเอกภาพ โดยยึดถือกฏหมายเดิมของรัฐฉินเป็นหลักและนำบางมาตราของ กฏหมายรัฐทั้ง6เข้ามาประกอบใช้ด้วย  

เพื่อป้องกันไม่ให้เชื้อสายของรัฐเดิมทั้ง6ทำการเคลื่อนไหว โค่นล้มราชวงศ์ฉิน พระองค์จึงสั่งย้ายพวกเขาไปอยู่”กวนจง”หรือมณฑล ส่านซีในปัจจุบันและ”ปาสู่”หรือมณฑลเสฉวนในปัจจุบัน ขนาด รวบอำนาจไว้เช่นนี้แล้วก็ยังไม่วางพระทัย ฉินซีฮ่องเต้ทรงสั่งการให้ริบ อาวุธของรัฐทั้ง6นำไปทำลายและห้ามชาวบ้านครอบครองอาวุธด้วย

   ทางด้านเศรษฐกิจ   ฉินซีฮ่องเต้ทรงสนพระทัยการเกษตร แต่ไม่ได้ส่งเสริมการค้า ส่งเสริมการพัฒนาระบบกรรมสิทธิ์ส่วนตัวของที่ ดินแบบสังคมศักดินา ปี216ก่อนคริสต์ศักราช ฉินซีฮ่องเต้ทรงสั่งการให้เจ้า ของที่ดินและเกษตรกรที่ทำไร่ไถนาซึ่งได้ครอบครองที่ดินอยู่แล้วเพียงแต่แจ้งจำนวนที่ดินและเสียภาษีแก่รัฐบาลเท่านั้น รัฐบาลก็จะให้การ รับรองหรือคุ้มครองกรรมสิทธิ์ของพวกเขา จากนั้น จึงได้กำหนดระบบ กรรมสิทธิ์ส่วนบุคคลในที่ดินไว้ตั้งแต่บัดนั้น

เพื่อให้การปกครองทั่วทั้งอาณาจักรได้ดำเนินไปอย่างมีประสิทธิ ภาพและให้มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินค้ากันได้โดยสะดวก ฉินซีฮ่องเต้ ทรงมีพระบรมราชโองการกำหนดให้ทั่วทั้งอาณาจักรใช้ภาษาหนังสือ  มาตราชั่งตวงวัดเป็นมาตรฐานอย่างเดียวกันทั้งหมดและเพื่อให้สะดวกในการเคลื่อนย้ายกำลังทหาร การติดต่อคมนาคมและการสื่อ สารระหว่างกันภายในอาณาจักร  ฉินชีฮ่องเต้ทรงบัญชาให้สร้าง ทางหลวงขึ้นรวมทั้งให้ขุดคลองเพื่อการคมนาคมทางน้ำด้วย  หนึ่งในทางหลวงสำคัญสองสายเริ่มต้นจากเสียนหยางเมืองหลวงของ รัฐฉินมุ่งไปทางตะวันออก   ผ่านมณฑลเหอเป่ยและ   ซานตงในปัจจุบัน ไปสุดฝั่งทะเลตะวันออก  ส่วนอีกทางหนึ่งตัดลง ทางใต้ ไปยังมณฑลเจียงซูและเจ้อเจียงในปัจจุบัน   นอกจากนั้น  ยังมีการสร้างถนนระหว่างมณฑลหูหนาน เจียงซี กว่างตุงและกว่างซี ในปัจจุบัน ตลอดไปจนถึงเขตที่อยู่ห่างไกล เช่นมณฑลหยูนหนานและ กุ้ยโจว นอกจากตัดถนนแล้ว   ยังมีการขุดคลองหลิงฉวีในเขต ปกครองตนเองชนชาติจ้วงกว่างซีในปัจจุบันเพื่อเชื่อมกับแม่น้ำหลีเจียงและแม่น้ำเซียงเจียงในมณฑลหูหนานในปัจจุบัน

เนื่องจากฉินซีฮ่องเต้ทรงเกรงว่านักคิดปัญญาชนเรียนรู้ประวัติ ศาสตร์แล้วจะนำความรู้ที่เล่าเรียนมาคัดค้านการปกครองและทำให้ ประชาชนในอาณาจักรพลอยสับสนไปด้วย พระองค์จึงมีพระบรมราช โองการให้เผาทำลายหนังสือประวัติศาสตรที่บันทึกเรื่องราวของรัฐต่างๆ ทั้งหมด ยกเว้นประวัติศาสตร์ของรัฐฉิน และหนังสือว่าด้วยการแพทย์ การทำนายพยากรณ์และการเกษตร ตามข้อเสนอของหลี่ซือ เสนาบดี    ของพระองค์ ส่วนใครที่ยังชอบวิพากษ์วิจารณ์ พระองค์ จะทรงถือเป็น การดูหมิ่นพระองค์อย่างรุนแรง ทรงมีบัญชาให้ดำเนิน  การสอบสวน และท้ายสุด ให้ลงโทษด้วยการฝังทั้ง เป็นซึ่งมีจำนวนไม่ต่ำกว่า460คน  นี่ก็คือเหตุการณ์”เผาหนังสือฝังปัญญาชน” ในประวัติศาสตร์จีนสมัยฉิน

ในสมัยจ้านกว๋อ ชาว”ซงหนู”ชนชาติที่เร่ร่อนอยู่ตามที่ราบ กว้างใหญ่ทางภาคเหนือและยังชีพด้วยการเลี้ยงสัตว์นั้นชำนาญการ รบบนหลังม้ามาก พวกนี้มักจะยกกำลังมารุกรานปล้นสะดมตามพรม แดนด้านเหนือของรัฐฉิน จ้าวและเอี้ยน ทำให้รัฐเหล่านี้ต้องสูญเสียทั้ง ชีวิตผู้คนและทรัพย์สินอยู่เสมอ เจ้าผู้ครองทั้งสามรัฐดังกล่าวจึงได้ สร้างกำแพงเมืองขึ้นตามบริเวณชายแดนของรัฐตน เพื่อเป็น   ปราการป้องกัน การรุกรานของพวก”ซงหนู”หลังจากได้รวบรวมรัฐ ต่างๆเข้าเป็นอาณาจักรเดียวกันแล้ว ฉินซีฮ่องเต้จึงได้ส่งแม่ทัพหม่ง เถียนไปปราบปรามพวก”ซงหนู”และเชื่อมต่อกำแพงระหว่างรัฐทั้ง สามเข้าด้วยกันและขยายออกไปทั้งทางตะวันตกและตะวันออกจากหลินเถา(ในอำเภอหมินเสี้ยนในปัจจุบัน)จนถึงเหลียวตงทางตะวันออกเป็น ระยะทางราว6,000กิโลเมตร เท่ากับ12,000ลี้ชื่อต่อมาเรียกกันว่า “ว่านหลี่ฉางเฉิง “หรือ”กำแพงหมื่นลี้” เป็นสิ่งมหัศจรรย์หนึ่งในเจ็ดของ โลก

หลังจากรวบรวมรัฐต่างๆเข้าเป็นเอกภาพแล้ว ฉินซีฮ่องเต้ก็เริ่ม ก่อสร้าง”วังเออผาง”และสุสานลี่ซานที่สง่างามยิ่ง  พระองค์มีพระชน มายุมากขึ้นเท่าใดก็ยิ่งทรงกลัวตายมากขึ้นเท่านั้น  พระองค์ พยายามเสด็จประพาสดินแดนต่างๆเพื่อเสาะหายาอายุวัฒนะหรือเพื่อ จะได้พบเซียนซึ่งเป็นผู้สำเร็จตามลัทธิเต๋า เชื่อกันว่า  เซียนเป็นผู้วิเศษที่สามารถใช้เวทมนตร์คาถาหรือมียาอายุวัฒนะช่วยให้พระองค์ไม่แก่ชราหรือสิ้นอายุขัย แต่การกระทำเช่นนี้สิ้นเปลืองทั้ง กำลังทรัพย์และกำลังคนและไม่ทำให้พระองค์มีพระชนมายุยืนยาวดังหวัง หากกลับเพิ่มความทุกข์ยากแก่ประชาชน ในที่สุด ฉินซีฮ่องเต้ก็  ประชวรหนักและสวรรคตลงในเดือน กรกฏาคม ปี210 ก่อนคริสต์ศักราช

 







Copyright © 2010 All Rights Reserved.