เนื่องจากผู้เรียนตัวอักษรภาษาจีนและผู้ทำการสอนตัวอักษรภาษาจีนมีความเข้าใจเอกลักษณ์และกฎเกณฑ์กับตัวอักษรภาษาจีนยังไม่เพียงพอไม่สามารถนำเอาทฤษฎี ทฤษฎีและวิธีการที่เป็นวิทยาศาสตร์ชี้นำการเรียนสอนและเรียนรู้เป็นอย่างดี ทำให้การเรียนการสอนและการเรียนรู้ตัวอักษรภาษาจีนไม่มีประสิทธิภาพ “ตัวอักษรภาษาจีนเรียนยาก”จึงกลายเป็นอุปสรรคสำคัญ
ในการเรียนการสอนภาษาจีนที่เป็นภาษาที่สอง
ตัวอักษรภาษาจีนคือระบบเครื่องหมายบันทึกภาษาจีนมันมีประวัติยาวนานมีเค้าโครงที่มีเอกลักษณ์พิเศษ มีอิทธิพลกว้างขวางรับความสนใจทั่วโลกกลายเป็นตัวอักษรภาษาที่มีความสำคัญยิ่งชนิดหนึ่งของโลกปัจจุบันในอดีตการไม่รู้ตัวอักษรภาษาไม่สามารถอ่านหนังสือรู้เรื่องจะถูกเรียกว่าเป็นผู้ไม่รู้จักตัวอักษรภาษา ในสังคมปัจจุบันก็เช่นเดียวกันไม่รู้ตัวอักษรภาษาไม่สามารถไม่สามารถใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ป้อนตัวอักษรภาษาเข้าระบบเพื่ออ่านและแลกเปลี่ยนความรู้ทักษะผ่านระบบ Internet จะถูกเรียกว่าเป็น“ผู้ที่ไม่รู้จักตัวอักษรภาษา”ยุคสังคมสมัยปัจจุบัน ฉะนั้นการเรียนรู้ตัวอักษรภาษาจีนจำเป็นต้องต้องเพิ่มความเข้มขันมากยิ่งขึ้นในสังคมข้อมูลข่าวสาร การไม่รู้จักตัวอักษรภาษาจีนจำไม่ได้อ่านไม่ออกเขียนไม่เป็นหรือไม่สามารถป้อนข้อมูลภาษาจีนเข้าระบบคอมพิวเตอร์ แม้จะสามารถพูดภาษาจีนได้คล่องออกเสียงถูกต้องในสังคมปัจจุบันยังมักจะตามคนไม่ทันไม่ว่าผู้เรียนภาษาจีนเป็นภาษาแม่หรือจะเป็นภาษาที่สอง
ทำความเข้าใจกับเอกลักษณ์รูปร่างหน้าตาของการออกเสียงและความหมายตัวอักษรภาษาจีนเข้าใจถึงกฎเกณฑ์โครงสร้างตัวอักษรภาษาจีนนั่นคือเนื้อหาของการศึกษาตัวอักษรศาสตร์ยังเป็นทักษะความรู้ทฤษฎีขั้นพื้นฐานที่ผู้ดำเนินการเรียนการสอนตัวอักษรภาษาจีนและผู้เรียนตัวอักษรภาษาจีนที่จำเป็นต้องยึดกุมไว้
ลักษณะของตัวอักษรภาษาจีน
ตัวอักษรภาษาจีนคืออะไร? นักเรียนนอกในประเทศจีนบางคนอาจกล่าวว่าตัวอักษรภาษาจีนทุกตัวเท่ากับภาพวาดหนึ่งภาพหรือลายเส้นที่ยุ่งเหยิงไม่รู้เริ่มต้นจากที่ใดแน่นอนตัวอักษรภาษาจีนคือรูปภาพประกอบลายเส้น สองมิติแต่มีความสับสนมากกว่ารูปภาพทั่วไป ต้องการเข้าใจตัวอักษรภาษาจีนก่อนอื่นจะต้องพูดถึงลักษณะของตัวอักษรภาษาจีน
เอกลักษณ์การเรียนรู้ตัวอักษรภาษาจีน
ตัวอักษรภาษาจีนเป็นตัวอักษรที่แตกต่างกับตัวอักษรผสมเสียงโดยสิ้นเชิง ผู้ที่เคยชินกับตัวอักษรผสมเสียงจะสังเกตได้ง่ายกว่าตัวอักษรภาษาจีนไม่ว่าจะเป็นการเขียน จำ อ่านการใช้ล้วนแตกต่างกับตัวอักษรผสมเสียงมาก
1. ด้านการเขียนตัวอักษร การเขียนตัวอักษรภาษาจีน ขีดเป็นหน่วยการเขียนตัวอักษรเล็กที่สุดรูปลักษณ์ทิศทางการขีดเขียนต่างกันระหว่างขีดเขียนแต่ละข้อมีลำดับขีดที่ถูกกำหนดไว้อย่างชัดเจนรูปแบบยาวสั้นตำแหน่งลักษณ์จุดตัดต่อระหว่างขีดต่างก็เป็นปัจจัยการแยกแยะการเขียนตัวอักษรภาษาจีนนักเรียนต้องการเรียนรู้จะต้องมีความสามารถแยกแยะรูปภาพอย่างละเอียด ความแตกต่างของการเขียนตัวอักษรภาษาจีนตัวอักษรแบบอักขระแตกต่างกัน ทำให้มีนักเรียนนอกโดยเฉพาะนักเรียนนอกจากยุโรป อเมริกาขาดความสามารถรู้ซึ้งถึงความละเอียดลออการขีดเขียนของตัวอักษรภาษาจีนทำให้ตัวอักษรภาษาจีนที่เขียนออกมาผิดเพี้ยนไป
2. ด้านการอ่านตัวอักษร ภาษาจีนเป็นทั้งเครื่องหมายสื่อความ การออกเสียงและเครื่องหมายตัวอักษร ชิ้นส่วนที่ประกอบด้วยขีดเขียนมีส่วนแสดงออกถึงการออกเสียงและการสื่อความหมาย มันต่างกับตัวอักษรอักขระที่แสดงการออกเสียงโดยตรง เอกลักษณ์ของตัวอักษรภาษาจีนดังกล่าวสะท้อนถึงการเรียนการสอนภาษาจีนก็ต้องให้ความสำคัญต่อการทำความเข้าใจกับการค้นพบของคำอธิบายเหตุผลภายในของตัวอักษรภาษาจีนและกฎเกณฑ์โครงสร้างภายในของตัวอักษรภาษาจีน
3. ด้านการใช้ตัวอักษรภาษาจีน ตัวอักษรภาษาจีนแต่ละตัวมีคุณสมบัติทับซ้อนของคำคุณศัพท์และเสียงคำอีกทั้งตัวอักษรตัวหนึ่งมีความหลากหลายเป็นปรากฏการณ์การที่แพร่หลายมาก ในกระบวนการใช้ตัวอักษรภาษาจีน ตัวอักษรภาษาจีนโดยตัวของมันเองสามารถสร้างเครือข่ายหลายมิติด้านรูปลักษณ์ แสง ความหมายเพื่อแยกแยะกับตัวอักษรภาษาจีนอื่นๆ โดยเฉพาะตัวอักษรจีนที่มีความคล้ายคลึงกันด้านรูปลักษณ์ เสียงและความหมายซึ่งก่อให้เกิดความสับสนจากการที่ตัวอักษรที่มีรูปลักษณ์ที่คล้ายกันเสียงเหมือนกันตลอดจนมีหลายหลายความหมายทำให้การเรียนรู้ตัวอักษรภาษาจีนไม่เพียงแต่ต้องการเรียนรู้เครื่องหมายรูปลักษณ์ ยังต้องรู้จักการใช้ตลอดจนแยกแยะตัวอักษรภาษาจีนจากเครือข่ายตัวอักษรภาษาจีนที่มีเสียงเหมือนกันรูปลักษณ์ใกล้เคียงกัน